31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก World No Tobacco Day ปี 2563 คำขวัญ ติดบุหรี่ ติดโควิด เสี่ยงตายสูง โดยองค์การอนามัยโลกเล็งเห็นอันตรายของบุหรี่และสุขภาพของผู้สูบบุหรี่ รวมถึงผู้ที่ไม่สูบแต่ต้องมารับควันบุหรี่ด้วยมีการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ที่ใช้ชื่อว่า World Spidemic ซึ่งสื่อถึงการสูบบุหรี่ที่เป็นเหมือนโรคระบาดโควิดที่ระบาดอยู่ทั่วโลกในขณะนี้
แน่นอนว่าเราทุกคนรู้ถึงอันตรายต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่ และPhil ได้เสนอบทความเกี่ยวกับการสูบในรูปแบบใหม่ๆที่เป็นที่นิยมในหนุ่มสาวไปบ้างแล้วว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้างต่อสุขภาพ ในวันงดสูบบุหรี่โลก Phil ขอเสนอผลกระทบของบุหรี่ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่อวัยวะภายใน มาดูว่าบุหรี่ส่งผลต่อความสวยงามของผู้หญิงเราอย่างไรบ้าง
1. การสูบบุหรี่ทำให้ถุงใต้ตาและรอยคล้ำใต้ตาแย่ลง
การสูบบุหรี่ทำลายวิตามินและ เซลล์ผิว ผิวของคนสูบบุหรี่มักจะเป็นผิวขาดน้ำ และจากการศึกษาของ John’s Hopkins พบว่าผู้สูบบุหรี่มีแนวโน้มที่จะรู้สึกง่วงนอนในตอนเช้าถึง 4เท่า คาดว่ามาจากอาการถอนนิโคตินตอนกลางคืนทำให้การนอนถูกรบกวน นอนได้ไม่เต็มอิ่ม กระสับกระส่ายและการอดนอนอาจทำให้รอยคล้ำและถุงใต้ตาแย่ลง (และมีผลต่อเลนส์ตาในระยะยาวอีกด้วย)
2. การสูบบุหรี่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
ทุกคนต้องการผิวพรรณที่ดีเต่งตึงดูอ่อนเยาว์ แต่ผู้ที่สูบบุหรี่ผิวจะเกิดรอยเส้นเส้นแนวตั้งรอบ ๆ ปากที่เกิดจากการทำท่าสูบบุหรี่ซ้ำเป็นประจำ นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังทำให้ระดับคอลลาเจนและอีลาสตินของผิวหนังพร่องยุบเร็วกว่าปกติซึ่งนำไปสู่ริ้วรอยก่อนวัยและยังทำให้หลอดเลือดตีบตันขัดขวางการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนในชั้นผิวซึ่งจะนำไปสู่การผลัดเซลล์ที่ช้าลงรวมถึงการแก่เร็วขึ้นอีกด้วย
3. การสูบบุหรี่ทำให้ผิวแก่และหย่อนคล้อย
การสูบบุหรี่ถือเป็นอันดับสองรองจากการถูกแสงแดดทำร้ายซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยก่อนวัย การสูบบุหรี่เพียงครั้งเดียวทำให้เกิดอนุมูลอิสระมากกว่าหนึ่งล้านล้านเข้าสู่ระบบของร่างกาย อนุมูลอิสระทำอะไร? มันสร้างความเสียหายภายในให้กับเซลล์และ DNA มันจะสลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำลายเนื้อเยี่อเกี่ยวพันที่ยึดผิวหนังเข้าด้วยกัน ผิวเริ่มสูญเสียความตึงกระชับ หย่อนคล้อย ดูแก่ก่อนวัย และไม่ใช่แค่ใบหน้า แต่แขน คอ ลำคอ และหน้าอกด้านใน ก็ถูกไอร้อนและอนุมูลอิสระเช่นกัน
4. การสูบบุหรี่ทำให้ผิวหมองคล้ำ
ควันบุหรี่มีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ซึ่งจะทำให้ผิวขาดออกซิเจนทำให้ไม่สดชื่นและหมองคล้ำ นอกจากนั้นนิโคตินตัวที่ทำให้เสพติด สะสมในหลอดเลือดจะทำให้เลือดน้ำพาออกซิเจน และสารอาหารต่างๆไหลเวียนไปที่ผิวหนังได้ยากและช้าลง ทำให้ผิวซีดและแห้ง ยิ่งแย่กว่านั้นเนื่องจากการสูบบุหรี่ทำลายปอดและส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย วิตามินซีส่วนใหญ่ในร่างกายจะถูกส่งไปเพื่อช่วยเร่งการซ่อมแซมส่วนที่เป็นอันตรายต่อการทำงานของอวัยวะหลักก่อน ทำให้วิตามินที่ไปถึงผิวมีเพียงเล็กน้อยผิวก็ถูกทำร้ายขาดการซ่อมแซมทำให้ดูหมองคล้ำ แห้ง ซีดโทรม
5. การสูบบุหรี่จะทำให้ผมบางลง
สารเคมีในควันบุหรี่มีพิษมากจนผมเหี่ยวแห้ง ทำลายเซลล์รากผม โพรงขนและฮอร์โมนที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม และดร.วิลมา เอฟเบิร์กเฟลด์หัวหน้าฝ่ายวิจัยทางคลินิกในภาควิชาผิวหนังที่คลีฟแลนด์คลินิกบอกถึงผลของการสูบบุหรี่นั้น ทำลายผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบตันและขัดขวางการไหลเวียนของเลือดซึ่งจะทำให้รูขุมขนตายเร็วขึ้น ผลลัพธ์ คือ ผู้สูบบุหรี่มีโอกาสผมบางเป็นสองเท่าของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ นอกเหนือจากนั้น การสูบบุหรี่ยังเพิ่มระดับ DHT (ฮอร์โมนที่มีส่วนสำคัญในการทำให้ผมร่วง)
6. การสูบบุหรี่จะทำให้ริมฝีปากคล้ำ เหี่ยวย่น
นิโคตินมีผลข้างเคียงมากมายและการทำให้เนื้อเยื่อผิวคล้ำขึ้นก็เป็นหนึ่งในนั้น อัลคาลอยด์ขัดขวางการไหลเวียนของออกซิเจนส่งผลให้ผิวซีดลงๆและเมื่อรวมกับการขาดธาตุเหล็กและวิตามินดี ก็จะทำให้ริมฝีปากกลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม หรือคล้ำถาวร ผลกระทบนี้มีผลกับริมฝีปากนานมาก
และการเคลื่อนไหวใบหน้าซ้ำ ๆ ในขณะที่สูบบุหรี่เข้าและพ่นออกซ้ำๆ ทำให้ผิวหนังที่ความยืดหยุ่นถูกทำลายโดยสารเคมีในควัน เคยเห็นผู้หญิงที่สูบบุหรี่แล้วทาลิปสติก สีลิปจะไหลไปเป็นเส้นเหนือริมฝีปากรอบๆ? นอกจากนี้ การสูบยังทำให้มีลมหายใจเหม็น ปัญหาเหงือก ฟันเหลือง จากสารเคมีพิษกว่าสี่พันชนิดที่พบในน้ำมันดินทำให้เกิดคราบเหนียวบนผิวฟัน ในผู้สูบบางรายเซลล์บนลิ้นหยุดการผลัดเซลล์ตามปกติทำให้แบคทีเรียเกิดมากจนคล้ายขนสีเข้มๆซึ่งจริงๆเป็นกลุ่มเชื้อราและเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วบนลิ้นนั่นเอง ฯลฯ
7.การสูบบุหรี่ทำให้เล็บของคุณเป็นสีเหลือง
บุหรี่ทำให้ขาดออกซิเจนไปเลี้ยงผิวหนังและเส้นผม ซึ่งก็ทำให้เล็บเกิดความเสียหายเช่นกัน เล็บของคุณยังมีชีวิตอยู่และต้องการอากาศเช่นเดียวกับคุณ
นอกจากนี้การจับบุหรี่ระหว่างนิ้วมือแบบง่ายๆเป็นสาเหตุภายนอกที่อาจส่งผลให้เล็บและผิวหนังบนนิ้วเหลือง “โรคนิ้วเหลือง” นี้เกิดจากสีของน้ำมันดินและนิโคตินซึ่งได้จากกลิ่นควันที่ฟุ้งกระจายและซึมผ่านผิวหนัง
8.การสูบบุหรี่ทำให้ผิวแตกลาย
การสูบบุหรี่ไม่เพียง แต่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินเท่านั้น แต่ยังทำลายเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในร่างกายของคุณอีกด้วย ทั้งหมดนี้นำไปสู่การเกิดรอยแตกลายที่จะกำจัดออกได้ยาก
9. การสูบบุหรี่ทำให้รอยแผลหายช้า
จริงๆ เรื่องรอยแผลเป็นก็เป็นอะไรที่รักษายากอยู่แล้ว ผู้สูบบุหรี่ที่เกิดแผลที่ผิวขึ้นมา ก็มีความเสี่ยงเกิดเป็นรอยแผลเป็น และมีโอกาสหายช้ากว่าคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ เพราะว่าสารนิโคตินจะทำให้เส้นเลือดตีบ ทำให้มีเลือดไหลเวียนในเส้นเลือดทั่วร่างกายน้อยกว่าปกติ แผลจะสมานได้ช้า
10. การสูบบุหรี่ทำให้เสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง
ยาสูบเป็นสารก่อมะเร็งหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร การสูบบุหรี่แต่ละครั้งจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง ทำให้ผู้สูบเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเซลล์สความัส (SCC) ซึ่งมักจะปรากฏที่ริมฝีปากของผู้สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ยังนำไปสู่ระบบภูมิคุ้มกันที่ลดลงซึ่งทำให้ผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อปัญหาผิวหนังและสุขภาพอื่น ๆ และทั้งหมดเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณควรเลิกสูบบุหรี่
credit: source